วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558
เรือชรา
โซ่ตรวนน้ำตาตรึงเรือชราไว้ริมตลิ่ง
ผูกรัดมัดแน่นหนามานานแสนนาน
.............
ถึงเวลาปลดปล่อย
เรือลอยตามยถากรรม
บันทึกภาพที่แก่งก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน
#โรคไร้สาระ
วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บางคิดของบางคน
กอดแล้วปล่อย
รอคอยเพื่อคืนรัง
"ความหวังโง่ๆ ของคนงุ่มง่าม งดงามเสมอ" ใครบางคนบอก
"ไร้สาระสิ้นดี" ใครบางคนบ่น
#โรคไร้สาระ
สงครามความรัก
บทความนี้เป็นเรื่องสั้นที่เขียนลงในเพจ The Diary แบบ 4 ภาพ ภาพละตอน (4 ตอนจบ) ซึ่งถูกเผยแพร่ไปบ้างในกลุ่มเพื่อนพี่น้องในโลก FB (เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา)
เรื่องราวได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางไปเยือนเมืองอุ้มผาง เมืองกลางป่าที่ผมหลงใหล
วันนี้ผมกลับเข้าไปอ่าน เข้าไปพิจารณา ผมพบว่าผมรักมันนะ "เรื่องไร้สาระในช่วงเวลาที่ไร้สาระ"
สงครามความรัก ตอน 1
ม่านหมอกก่อการณ์ดีด้วยวางแผนโจมตีผืนป่า
ความรักไม่เคยจางไปจากใจป่า
สงครามความรัก ตอน 2
สงครามความรัก ตอน 4 (จบ)
ฝูงนกบินออกจากป่า ออกไปหากินตามปกติ
แม่นกหันมามอง แล้วบอกลูกน้อยว่า"ป่าไม่มีอะไรแน่ แม่เคยเห็นความเปลี่ยนแปลงมามากแล้ว พายุกระหน่ำ ซ้ำด้วยน้ำป่า บางกาลเวลาป่าแห้งแล้งร้าย น้ำซึมแทรกทราย แม้ควายยังไม่มีน้ำกิน"
"แล้ววันนี้........." เจ้าตัวเล็กเอ่ยถามไม่ทันจบประโยค แม่นกชิงตอบ
"เมื่อวาน...ฝน หมอก แดด ดวงดารา แวะเวียนมาหาป่า มาโอบกอดพลอดรัก สุดท้ายตกลงกันว่าจะรักป่าเท่าๆ กัน เกื้อหนุนจุนเจือกัน ถึงวันหนึ่งป่าท้องต้องมีครรภ์ คลอดลูกออกหลาน ป่าเบิกบานกว้างใหญ่ ถึงวันนั้นต้นไม้ในพงไพรจะโลมไล้ให้โลกเย็น"
เจ้าตัวเล็กพยักหน้า ขยับปีกบินข้ามป่า บินไปในท้องนภา บินตามแม่ไป
เรื่องราวได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางไปเยือนเมืองอุ้มผาง เมืองกลางป่าที่ผมหลงใหล
วันนี้ผมกลับเข้าไปอ่าน เข้าไปพิจารณา ผมพบว่าผมรักมันนะ "เรื่องไร้สาระในช่วงเวลาที่ไร้สาระ"
เช้าตรู่สู่รุ่งสาง เหตุเกิดกลางไพรในเสน่หา
ม่านหมอกก่อการณ์ดีด้วยวางแผนโจมตีผืนป่า
ไม่มีการเจรจาใดๆ ล่วงหน้า
มันคืบคลานเข้ามาราวอสูรกายหลายรอยยิ้ม
ไม่นานนัก ป่าสุดที่รักตกอยู่ในอ้อมกอด
กอดกันอยู่ในอ้อมใจ
เสียงผืนป่ากระชิบ "กอดฉันไว้ อย่าจากไปไหนนะ"
ป่ากระซิบทั้งๆ
ที่รู้ว่าเวลาแห่งการจากลาใกล้เข้ามา
เมื่อตะวันโผล่พ้นสันเขา สาดแสงสู่แผ่นดิน
ถึงเวลานั้นสายหมอกลอยฟุ้ง กระจายตัวไปในอากาศ อ้อมกอดคลาย
คงเหลือเพียงสัมผัสรู้สึก..รู้สึกถึงสัมผัส
ความรักไม่เคยจางไปจากใจป่า
ศรัทธาไม่เคยจางไปจากใจโจร
หมอกกับไม้
หัวใจกับหัวใจ
ตลอดกาล นานตลอดไป
เช้าตรู่สู่รุ่งสาย เหตุเกิดกลางไพรในคราวแค้น
ตะวันเคลื่อนเลื่อนตัวเหนือสันเขา
แสงเงาทอดทาบแผ่นดินถิ่นพฤกษา
เสียงป่าบอกหมอกให้ระวังสุริยา
เสียงตื่นกลัวจากเมฆาร้องระงม
ก่อนหมอกจางไป แสงส่งเสียงนาบนุ่ม..ทุ้มอารมณ์
"เจ้าจะกลัวข้าไปทำไม เจ้าหนาวมาทั้งคืน พอเจ้าตื่น..ข้ามอบความอบอุ่นให้ ไม่พอใจหรอกหรือ" ประโยคแรกเขาบอกป่า ประโยคต่อมาเขาบอกม่านหมอก
"เจ้ารักป่าข้ารู้ เจ้าสมสู่กันมาทั้งคืนข้าเห็น ถึงเวลาของตะวันบ้างทำไมต้องหวาดหวั่น หรือเจ้าเห็นแก่ตัวจนมิอาจจากนางไป"
หมอกไม่ตอบคำ สลายไปตามบทวิถี
ป่าก้มหน้าซ่อนยิ้ม คิดในใจเพียงลำพังว่า..ทิวาแห่งความสุขกำลังเริ่มต้น ความอบอุ่นเยื้องกายมา ขอเพียงอย่ามีฝนก็แล้วกัน
สงคราวความรัก ตอน 3
เช้าตรู่สู่ร่งบ่าย เหตุเกิดกลางไพรในอบอ้าว
ตะวันแอบแค้นเคืองสายหมอก แต่มันหลงรักป่า หลายครั้งหลงคิดว่าป่าเป็นของตะวันเพียงผู้เดียว มันไม่ได้คิดผิดแผกไปจากหมอก..เหมือนม่านหมอกพยายามปกคลุมผืนป่ายามเช้า เหมือนภาพขุนเขาซ่อนตัวอยู่ใต้ปีกหมอกขาวขุ่น
วันนี้ตะวันหมั่นไส้ป่า..เธอทำมารยาอิงแอบแนบชิดม่านหมอกเนิ่นนานเกินไป หลงลืมว่าสุริยารออยู่ วันนี้จึงหาเรื่องให้ป่าร้อน ส่งแสงแดดแผดเผาราวให้เรือนร่างพันธุ์ไม้ละลายไปกับความโกรธเคือง
แต่แสงแกล้งเธอได้ไม่นาน เสียงฟ้าคำรณเสียงฝนคำราม เมฆดำก่อตัว ฟ้าเริ่มมืดมัวด้วยกลุ่มเมฆสีเทาหม่น
ไม่นาน..สายฝนหล่นลงมา สายฟ้าส่งประกาย แสงแดดหนีหาย หมู่ไม้เริงระบำ
ฝนโอบอาบ ป่าซาบซึ้ง เฝ้ารำพึงถึงความเย็นซ่านผ่านกาบเปลือก ฝนยะเยือกไหลเซาะเลาะรอยร่อง ผ่านท่วงทำนองเพลงใบไม้ เสียวซ่านกาย กอดก่ายมนต์มายามิรู้เบื่อ
กว่าตะวันจะรู้ว่าฝนกับแมกไม้โอนถ่ายความรักกันอย่างไร ราตรีเฉิดฉายร่ายร่างเข้าครอบครอง หมดเวลาของตะวัน หมดวันของพิรุณ
"หลับเถิดป่า จันทราจะขับกล่อมเอง" เสียงดาวเถื่อนกระซิบป่าชื้นในช่วงเม็ดฝนยังไม่ระเหยหาย พันธุ์พฤกษบิดเรือนกาย..แสร้งเอียงอายพอเป็นพิธี
ตะวันเคลื่อนเลื่อนตัวเหนือสันเขา
แสงเงาทอดทาบแผ่นดินถิ่นพฤกษา
เสียงป่าบอกหมอกให้ระวังสุริยา
เสียงตื่นกลัวจากเมฆาร้องระงม
ก่อนหมอกจางไป แสงส่งเสียงนาบนุ่ม..ทุ้มอารมณ์
"เจ้าจะกลัวข้าไปทำไม เจ้าหนาวมาทั้งคืน พอเจ้าตื่น..ข้ามอบความอบอุ่นให้ ไม่พอใจหรอกหรือ" ประโยคแรกเขาบอกป่า ประโยคต่อมาเขาบอกม่านหมอก
"เจ้ารักป่าข้ารู้ เจ้าสมสู่กันมาทั้งคืนข้าเห็น ถึงเวลาของตะวันบ้างทำไมต้องหวาดหวั่น หรือเจ้าเห็นแก่ตัวจนมิอาจจากนางไป"
หมอกไม่ตอบคำ สลายไปตามบทวิถี
ป่าก้มหน้าซ่อนยิ้ม คิดในใจเพียงลำพังว่า..ทิวาแห่งความสุขกำลังเริ่มต้น ความอบอุ่นเยื้องกายมา ขอเพียงอย่ามีฝนก็แล้วกัน
สงคราวความรัก ตอน 3
เช้าตรู่สู่ร่งบ่าย เหตุเกิดกลางไพรในอบอ้าว
ตะวันแอบแค้นเคืองสายหมอก แต่มันหลงรักป่า หลายครั้งหลงคิดว่าป่าเป็นของตะวันเพียงผู้เดียว มันไม่ได้คิดผิดแผกไปจากหมอก..เหมือนม่านหมอกพยายามปกคลุมผืนป่ายามเช้า เหมือนภาพขุนเขาซ่อนตัวอยู่ใต้ปีกหมอกขาวขุ่น
วันนี้ตะวันหมั่นไส้ป่า..เธอทำมารยาอิงแอบแนบชิดม่านหมอกเนิ่นนานเกินไป หลงลืมว่าสุริยารออยู่ วันนี้จึงหาเรื่องให้ป่าร้อน ส่งแสงแดดแผดเผาราวให้เรือนร่างพันธุ์ไม้ละลายไปกับความโกรธเคือง
แต่แสงแกล้งเธอได้ไม่นาน เสียงฟ้าคำรณเสียงฝนคำราม เมฆดำก่อตัว ฟ้าเริ่มมืดมัวด้วยกลุ่มเมฆสีเทาหม่น
ไม่นาน..สายฝนหล่นลงมา สายฟ้าส่งประกาย แสงแดดหนีหาย หมู่ไม้เริงระบำ
ฝนโอบอาบ ป่าซาบซึ้ง เฝ้ารำพึงถึงความเย็นซ่านผ่านกาบเปลือก ฝนยะเยือกไหลเซาะเลาะรอยร่อง ผ่านท่วงทำนองเพลงใบไม้ เสียวซ่านกาย กอดก่ายมนต์มายามิรู้เบื่อ
กว่าตะวันจะรู้ว่าฝนกับแมกไม้โอนถ่ายความรักกันอย่างไร ราตรีเฉิดฉายร่ายร่างเข้าครอบครอง หมดเวลาของตะวัน หมดวันของพิรุณ
"หลับเถิดป่า จันทราจะขับกล่อมเอง" เสียงดาวเถื่อนกระซิบป่าชื้นในช่วงเม็ดฝนยังไม่ระเหยหาย พันธุ์พฤกษบิดเรือนกาย..แสร้งเอียงอายพอเป็นพิธี
สงครามความรัก ตอน 4 (จบ)
เช้าตรู่สู่รุ่งวันใหม่ เหตุเกิดกลางไพรในความเข้าใจ
ฝูงนกบินออกจากป่า ออกไปหากินตามปกติ
พวกมันบินจากป่าหนึ่ง..สู่ป่าหนึ่ง เจ้าตัวเล็กบินอยู่ท้ายสุดเร่งความเร็วขึ้นมาเคียงข้างแม่ มันเอ่ยปากบอกกล่าวเรื่องบางอย่าง
"แม่ครับ วันนี้ป่าสวย หมอกงาม อากาศดี ด้านหน้าโน้นมีฝนตกลงมาเบาๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ทุกวันก็ดีซิครับแม่"
แม่นกหันมามอง แล้วบอกลูกน้อยว่า"ป่าไม่มีอะไรแน่ แม่เคยเห็นความเปลี่ยนแปลงมามากแล้ว พายุกระหน่ำ ซ้ำด้วยน้ำป่า บางกาลเวลาป่าแห้งแล้งร้าย น้ำซึมแทรกทราย แม้ควายยังไม่มีน้ำกิน"
"แล้ววันนี้........." เจ้าตัวเล็กเอ่ยถามไม่ทันจบประโยค แม่นกชิงตอบ
"เมื่อวาน...ฝน หมอก แดด ดวงดารา แวะเวียนมาหาป่า มาโอบกอดพลอดรัก สุดท้ายตกลงกันว่าจะรักป่าเท่าๆ กัน เกื้อหนุนจุนเจือกัน ถึงวันหนึ่งป่าท้องต้องมีครรภ์ คลอดลูกออกหลาน ป่าเบิกบานกว้างใหญ่ ถึงวันนั้นต้นไม้ในพงไพรจะโลมไล้ให้โลกเย็น"
เจ้าตัวเล็กพยักหน้า ขยับปีกบินข้ามป่า บินไปในท้องนภา บินตามแม่ไป
..............................
พายุทราย พรายทะเล
#โรคไร้สาระ
#โรคไร้สาระ
วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558
อยู่ที่ใจ
ขวากขม
คมหนาม
ก้าวข้ามหรือฟันฝ่า
ตามหาแรงใจให้เจอ อย่าปล่อยให้ความท้อแท้ขบกัดปัญญา
...............................
บันทึกภาพริมถนนเพชรเกษม ต.คลองวาฬ (ฝั่งตะวันตก) จ.ประจวบคีรีขันธุ์
#โรคไร้สาระ
วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558
พู่กันในมือนักรบ
พู่กันในมือนักรบผู้เหนื่อยล้าจากสงคราม
มิอาจนำรอยเลือดมาเฉือดเฉือนบนผืนผ้าใบ
สิ่งที่เขาต้องทำคือ
วาดความตายให้คลายขม
วาดความตรมให้หายขื่น
วาดความเริงรื่นให้เพื่อนชื่นใจ
วาดสันติตอบโต้ความขัดแย้ง
วาดความรุนแรงเป็นมิตรไมตรี
วาดคุณความดีสลายความระยำ
แล้ววันนี้
ผู้เสวยสุขในเมืองใหญ่วาดอะไรให้พวกเขา
กระถางธูปหรือคำเชยชม?
#โรคไร้สาระ
ผู้เสวยสุขในเมืองใหญ่วาดอะไรให้พวกเขา
กระถางธูปหรือคำเชยชม?
#โรคไร้สาระ
วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ฝังรกราก
กราบไหว้บูชา
ศรัทธาหรืองมงาย
นานมาแล้ว ผมหัวเราะเยาะภาพพวงมาลัยตามต้นไม้
เย้ยหยันคนบูชาเทพเทวาที่เชื่อว่าสิงสถิตอยู่ในนั้น
วันหนึ่ง เริ่มรู้สึกถึงพลังบางอย่างจากต้นไม้หลังจากรู้จักป่าและรู้จักวิถีชนเผ่า
วันหนึ่งได้สัมผัสวิถีปะกาเก่อญอ (กะเหรี่ยง) พวกเขาบูชาต้นไม้
รักษ์ต้นไม้ รกจากสายสะดือมารดาหลังคลอดเป็นสายสัมพันธ์สืบถึงคนกับต้นไม้ พวกเขาเอารกฝังไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่
เป็นต้นไม้ประจำตระกูล ต้นไม้ประจำครอบครัว มีความเชื่อว่าการฝังรกที่รากทำให้ชีวิตอุดมสมบูรณ์
ร่มเย็นเป็นสุข นับเป็นความเชื่อที่ยอดเยี่ยมเพราะเอาธรรมชาติมาดำเนินชีวิต
เป็นปรัชญาเรียบง่ายที่น่านับถือ คือป่าอุดม ต้นไม้เติบโต ชีวิตเป็นสุข
วันหนึ่งผมยกมือไหว้ป่า กราบสักการะต้นไม้ มอบชีวิตและจิตวิญญาณให้ธรรมชาติ
วันหนึ่งผมเลิกยกมือไหว้นักการเมืองสกปกรก เลิกนับถือคนขี้อวดไร้ประโยชน์ต่อประเทศชาติ
วันหนึ่งผมไม่ยกมือไหว้ผู้ใหญ่บางคนที่ทำตนเยี่ยงเดรัจฉาน มารสังคม
วันหนึ่งผมจะฝังร่างไว้ใต้แผ่นหิน ใต้ผืนดิน หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับรกใต้ราก
ละลายกลายเป็นอินทรีย์ธาตุส่งเสริมให้ต้นไม้เจริญเติบโตต่อไป
ถึงวันนี้ผมเคารพต้นไม้ ศรัทธาสายน้ำ ค้อมคำนับสายลมเมฆฝน ไม่มีความเคลือบแคลงใจใดๆ เกี่ยวกับผู้คนที่กราบไหว้บูชาฟ้าดินอีกต่อไป
ตองน้ำตา
อาบน้ำทะเลดาว
อุ่นหนาวคราวรินไหล
โอบกอดด้วยตองใจ
อิ่มหยาดใสใยน้ำตา
บางสิ่งเกิดมาเพื่อรองรับ ไม่ได้ให้ก็เหมือนให้ ต้องเข้าใจวิถีตน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)