วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ผีเสื้อประหลาด (เรื่องสั้น...สั้นๆ)



ผีเสื้อตัวหนึ่งถือกำเนิดกลางป่าใหญ่ ใกล้ริมลำธาร คืนนั้นฝนตกหนัก ปีกบางใสเปียกชุ่ม ขยับไม่ได้ สิ่งที่มันทำคือเกาะกิ่งไม้เก่าแล้วเฝ้ารอ รอให้ฝนหยุด

รุ่งสาง ม่านฝนขาดหาย แสงแดดยามสายช่วยซับน้ำตาจากฟากฟ้า แรกเริ่มมันคิดว่าไม่รอด พอรอดจึงเข้าใจ มันเข้าใจว่าทุกสรรพสิ่งช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทุกชีวิตสัมพันธ์กัน เป็นหนี้กัน แสงตะวันคือผู้มีบุญคุณ ช่วยชีวิตให้มันรอดพ้นจากความเยือกเย็น มันบอกกับดวงตะวันว่า วงชีวิตสั้นๆ ที่มันมีอยู่ ขอช่วยสังคมป่า ขอเช็ดน้ำตาให้วิญญาณทุกดวง

เหยียดปีกตากแสงสาย
ถึงช่วงบ่ายจึงออกบิน  
เริงร่าไกลจากถิ่น
จากผาหินสู่ธารทะเล




คืนวันผันผ่าน ดื่มกินน้ำตามานานระดับหนึ่ง ซึ่งมันพบว่าน้ำอุ่นๆ นั้นมีรสชาติแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

น้ำตาผู้สูญเสีย  ขม ขื่น
น้ำตาผู้โง่เขลา จืด ชืด
น้ำตาผู้จากลา บ้างขม  บ้างกลมกล่อม
น้ำตาผู้มีชัย กินเท่าไหร่ไม่เบื่อ
น้ำตามารยา รสชาติแย่ที่สุด

ช่วงสุดท้ายปลายชีวิต มันบินกลับมาที่ป่าใหญ่ เกาะกิ่งไม้ริมลำธาร คิดย้อนกลับไปเมื่อวัยวาน ระหว่างทางพบเจอชีวิตมากมาย ได้ดื่มน้ำตาชาย ได้ขโมยความเศร้าจากหัวใจหญิง ได้รับรสความจริง ได้ลิ้มความลวง เสียดายไม่เคยได้ดื่มน้ำตาในทรวงจึงไม่ล่วงรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร

เช้าตรู่ มันรู้ความตายใกล้เข้ามา 
แว่วยินเสียงแสงตะวันถามว่า “หากเกิดใหม่ได้ อยากเกิดเป็นอะไร”
มันตอบช้า ชัด และใช่ “ขอเกิดเป็นน้ำตา”
แสงตะวันงุนงง ถามซ้ำอีกคำหนึ่ง “ทำไม”
มันยิ้มแล้วตอบ “น้ำตาเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย”
แสงตะวันหัวเราะเบาๆ ถามเหมือนไม่อยากได้คำตอบ “เจ้าไม่อยากตาย อยากเป็นอมตะ”
ผีเสื้อนิ่ง ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่ใช่ ข้าไม่ชอบอมตะ อมตะมันทรมาน ที่อยากเป็นน้ำตาเพราะอยากให้ผีเสื้อตัวอื่นได้รู้รสบ้าง”


ผีเสื้อพเนจรล่วงหล่นบนพื้นทราย สายลมพัดพาร่างบางเบาไปที่ธารน้ำ ลอยลับไปกับผืนป่า  จากลาชั่วนิรันดร์

#โรคไร้สาระ

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กว่าจะถึงปลายฟ้า









บางตัวจร บางตัวจาก บางตัวพลัดพรากระหว่างรอนแรม บางตัวหนีไปแบบไร้เหตุผล สุดท้ายพบตัวเองบินเดี่ยวอยู่ในฟ้ากว้าง

ขณะบินเพียงลำพัง มันถามตัวเองว่า "มีกำลังใจไปถึงจุดหมายไหม? สู้อย่างไรจึงไม่โรยแรง? หยุดพัก? ไปต่อ? หรือหุบปีกทิ้งร่างลงกลางทะเลน้ำตา?"

เงียบ
มีคำถามแต่ไม่มีคำตอบ

สุดท้ายมันกางปีกแต่ไม่ขยับบิน
ปลดตัวเองออกจากพันธนาการทางความคิด
ปล่อยให้สายลมอ่อนล้าพาไปสู่ปลายทาง
ถึงหรือไม่ถึง ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

#โรคไร้สาระ




วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เป็นเช่นนั้น



ชีวิตไม่ได้คมชัดเสมอไป
บางคราวเคว้งคว้าง
บางครั้งแกว่งไกว
เพียงเดินผ่านได้ หัวใจก็สุขพอ
..........................

จาก FB พายุทราย พรายทะเล
#โรคไร้สาระ

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เต่ากับโลกทะเลที่ไม่เคยรู้จัก



เพื่อนฉันเดินนำหน้า
เชื่องช้าและหยุดมอง
เขามองไปที่เกลียวคลื่นหนา
มองหาเส้นขอบฟ้าไกล
มองไม่เห็นอะไรนอกจากเกลียวคลื่นและเกลียวคลื่น

เขาเดินต่อ ฉันเดินตาม
เขาหยุดอีกครั้ง
มองไปข้างหน้า
เหยี่ยวเวหากางปีก
อีกไม่นานมันคงกางเล็บ

นอกจากทะเลกว้างที่เราไม่เคยสัมผัส ยังมีนักล่ารอเราอยู่
การตัดสินใจหนีออกจากบ่ออนุบาลที่ฉันและเขาเติบโตมาไม่ได้ผิด
ฉันและเขาต้องการรู้จักชีวิตในมหาสมุทร
อยากรู้จักการผจญภัย
อยากรู้จักภัย
อยากรู้จักเต่าตัวอื่น พวกเต่านอกบ่อซีเมนต์

คลื่นลูกแรกซัดเรากลับมาบนหาดทราย
คลื่นลูกที่สองย้ายเราไปคนละทิศ
ฉันและเขาไม่ได้พูดคุยอะไรกัน หัวใจมีความมุ่งมั่น มีความฝันจากวานวัย

คลื่นลูกที่สามพัดพาเราออกไป
ฉันสำลักน้ำแต่พยายามแหวกว่าย
ว่ายไปพร้อมเงาพญาเหยี่ยวทาบทับอยู่บนกระดอง

เหยี่ยวโฉบลงมาใกล้ กางเล็บแหลมคม สายตามุ่งตรงมาที่เขา
เราไม่มีทางเลือก เพราะเลือกเดินหน้าต่อไป
น่าแปลกใจ เหยี่ยวกางเล็บแล้วเก็บเล็บ
ขยับปีกลาจาก ไม่ยอมพรากวิญญาณเรา

รอดจากเหยี่ยว
ไม่รอดจากความเปลี่ยวเปล่า
เขาหายไป ฉันหายใจ
ทะเลกว้างใหญ่ยังรอคอย
.
.
โลกนอกกะลา
........................................

หาดท้ายเหมือง เนื่องจากการปล่อยเต่าบนผืนทราย กรมประมงฯ จังหวัดพังงา
บันทึกภาพวันที่ 12 ก.ค. 2558

#โรคไร้สาระ



วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สิ่งที่เรียกว่าบ้าน


ขนำกลางนา
ไร้ฝา หลังคาเก่า
ใช้หลบแดด
ใช้หลบฝน
ใช้หลบคนที่น่าชิงชัง
.
.
ในคราวเหน็ดเหนื่อยอาศัยเป็นที่พัก
ในคราวมีรักเอาไว้เป็นที่พบเจอ
.
.
สุขและฝันในบ้านหลังน้อย..ขนำ
..................................................

สิ่งที่เรียกว่า "บ้าน" มีองค์ประกอบสำคัญสองสามข้อ คืออุ่นและสุข ลองสำรวจดูว่าบ้านหรูหราราคาแพงของคุณมีองค์ประกอบประเภทนี้ไหม
..........................................

บันทึกภาพที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
#โรคไร้สาระ






วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฉันเป็นกา





ตอนเป็นเด็ก มีพ่อแม่เป็นครูสอนบิน
ตอนเป็นเด็ก มีพ่อแม่เป็นครูสอนหากิน
ตอนเป็นเด็ก แอบดูเหยี่ยวโผผินบินโฉบเหยื่อ

โตขึ้น ฉันโผขึ้นไปยอดผา แอบฟังการสนทนาระหว่างลูกเหยี่ยวกับพ่อเหยี่ยว ความตอนหนึ่งพ่อเหยี่ยวสอนลูกว่า “เหยื่อไม่ได้โง่ ขณะเราโผลงไปใกล้ผิวน้ำ อาจมีนักล่ารอคอยเราอยู่ อย่าทะนงตัวเองว่าเป็นเหยี่ยว แค่ก้าวพลาด ผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อ เหยื่อกลายเป็นผู้ล่า”

โตขึ้น ฉันรู้ว่าแม่กาแน่กว่าพ่อเหยี่ยว เล่ห์เหลี่ยมเยอะกว่า ขยันกว่า แต่แม่กามีความต้องการมากกว่า แม่กาเป็นแม่กา ไม่ได้เป็นแม่เหยี่ยว

โตขึ้น ฉันถูกขับไล่จากฝูงกา ข้อหาผิดแผกแตกต่าง
โตขึ้น ฉันผจญภัยในเวิ้งว้าง บินอย่างกาไม่ได้บินอย่างเหยี่ยว
โตขึ้น ฉันบินเดี่ยวแบบเหยี่ยวไม่ได้รวมฝูงอย่างกา

โตขึ้น ฉันใช้ชีวิตแบบเหยี่ยว ล่าเท่าที่หิว กินเท่าที่ต้องการ
โตขึ้น ฉันยังเป็นกา ยังสืบสานเสียงกาบนฟ้ากว้าง 
โตขึ้น ส่งเสียงน้อยลง บินไกลกว่าเดิม


โตขึ้น ฉันยังเป็นกา ฉันไม่ใช่เหยี่ยว
...................................................

บันทึกภาพกาที่ทะเลน้อย จ.พัทลุง
#โรคไร้สาระ

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อีสานสไตล์



"โลกเปลี่ยนมากเท่าใด หัวใจเปลี่ยนไปหรือเปล่า"

ผู้เฒ่าถูกถาม
ผู้ถามยังไม่เฒ่า





กระติ๊บข้าว 
ผ้าขาวม้า 
โชคชะตาพามาพบเจอ


งานศิลปะบนฝาผนัง งานโฟล์คอาร์ตแบบจัดวางของคุณบุญทรง คลอสเน่อร์
เป็นงานเรียบง่ายแบบอีสาน งานนี้ไม่ได้จัดแสดง แต่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับใครคนหนึ่งซึ่งจากหมู่บ้านชนบทแห่งนี้ไปนานแสนนาน
...............................

บ้านหนองขอน อุบลราชธานี
1 กรกฎาคม 2558
#โรคไร้สาระ








วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

รอเปลี่ยน



ฝนบาง
แสงเบา
ควันเหงา
เงางาม
.
.
.
แล้งใกล้ลา
..................

ท้องนาบ้านหนองขอน อุบลราชธานี
#โรคไร้สาระ