วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หงส์กับกา

"อีกา”

กางปีกบินบนเส้นทางแสนไกล
บางครั้งเหน็บหนาว บางคราวร้าวใจ
ยังขยับปีกบินไป ในโลกสีคราม
…………

“ความต่าง”

ตัวหนึ่งเฉิดฉายในโรงละคร
ตัวหนึ่งย้ายรังนอนทั่วฟากฟ้าไกล
ความสุขอยู่ที่ใจ ความหมายอยู่ที่การเดินทาง

เสรีภาพของอีกากับหงส์ในกะลาแก้ว 
ถึงเวลาต้องเลือกแล้ว



กล้อง Nikon D300s
Aperture  F.11
Shutter Speed 1/250
Iso 400

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ความต่างระหว่างหายใจ

ไม่เคยรู้ตัวว่าดี
ไม่เคยมีคำว่ายืนยาว
ถึงคราวล่วงหล่น หล่น
ถึงคราวหลุดพ้น พ้น
พ้นจากขั้วพันธนาการ เพื่อการเจริญพันธุ์ใหม่

ก่อนตาย ดอกไม้พูดกับถนนคอนกรีตว่า "พวกข้าตายแต่ยังมีชีวิต ผิดกับเจ้า เจ้าคงทน  เจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าตายตั้งแต่แจ้งเกิดเป็นปูนแล้ว"

ดอกไม้สิ้นลมบนถนนไร้รัก
สิ่งที่มันพูด คอนกรีตไม่มีทางเข้าใจ มันไม่มีชีวิต





กล้อง Nikon D300s
Aperture  F.5.6
Shutter Speed 1/400s
Iso 200

เพียงลำพัง


ฉันเกิดจากป่า
ฉันเกิดมาจากไม้
มีคนผลักไสให้ฉันไปอยู่ในน้ำ อยู่ในทะเลสาบกว้างใหญ่

วันเวลาผ่านไป
ฉันกับเขาตระเวณไปทั่วผืนน้ำ
เขาไปกับฉัน
ฉันไปกับเขา
เรามีเรา
มีกันและกันตลอดเวลา
ยกเว้นคราเหนื่อยหนัก ต่างคนต่างพัก ต่างคนต่างหลับใหลเพื่อวันใหม่เดินทางมาถึง

ช่วงหลังๆ ฉันหลงรักเขา หลงรักน้ำ หลงรักการผจญภัย เคยพูดกับตัวเองไว้ "วันหนึ่งเมื่อถึงเวลา จะตายในป่าหรือในน้ำล้วนมีค่าเท่าเทียมกัน"

การพัก (ของเขา) คราวนี้เนิ่นนานผิดปกติ
ฉันรอคอย
ฉันเป็นห่วง
เมื่อวานมีคนผ่านมา คนๆ นั้นบอกฉันว่า "เขาป่วยหนัก คงตายในไม่ช้า"

คำพูดนั่นมีผลถึงฉันโดยตรง หากเป็นจริง เขาคงไม่มีโอกาสสัมผัสฉันอีก ฉันอยากให้ใครซักคนปลดปล่อย ปล่อยเขามาหาฉัน ปล่อยให้เราพบเจอกัน ปล่อยเชือกจากเสาหลัก ปล่อยความรักของเราล่องลอยไปกับโลกเสรี

ถ้าไม่มีเขา ไม่ควรมีฉัน เราต่างเกิดและโตมาด้วยกัน ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา เราควรออกเดินทางไกลไปที่ขอบฟ้า บอกลาทุกคนในหมู่บ้าน บอกตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย "ความตายไม่น่ากลัวหรอกถ้าเราสิ้นใจไปด้วยกัน"

นกกินปลีท้องเหลือง

เรื่องราวไร้สาระ (เหตุเกิดที่ระเบียง)

หนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก่อนออกเดินทางไปต่างจังหวัด มีนกขนาดเล็ก ปากยาว แหลมโค้งเล็กน้อย วนเวียนมาเกาะกิ่งมะขามเทศ (มะขามเทศที่เคยตายไปแล้ว แต่มันกลับฟื้นคืนชีวิตอย่างน่าประหลาดใจ) มันมาทำรัง เข้าใจว่ามันกำลังจับคู่เพื่อออกไข่ ถ่ายทอดสายพันธุ์ด้วยการมีลูก

ผมไม่ได้ไปยุ่งกับมัน ไม่ได้เฝ้ามองเพราะต้องแบกเป้ไปต่างจังหวัด
เวลาผ่านไป ผมกลับมา รังที่มันทำไม่สำเร็จ ยืนมองรังแหว่งวิ่นด้วยความสงสัย ตั้งคำถามในใจ "เกิดอะไรขึ้น"

ผมไม่มีเวลาเฝ้ามองความล้มเหลวนานนัก ต้องแบกกล้องสุดที่รักออกจากบ้าน ปล่อยให้รังที่ไม่เหมือนรังห้อยอยู่อย่างนั้นตามยถากรรม

หลายวันผันผ่าน กลับบ้านด้วยความเหนื่อยล้า วางกระเป๋า ทิ้งตัวลงนอนเพื่อพักผ่อน ยังไม่ทันหลับตาได้ยินเสียงนกอยู่ไม่ไกล มันส่งเสียงรบกวนซ้ำๆ ทำให้นอนไม่ได้ ลุกขึ้น เดินมาดูที่ระเบียง (แอบๆ) ปรากฏรังใหม่ ใหญ่ขึ้น สมบูรณ์ขึ้น แต่ในทางสถาปัตยกรรมมันเป็นรังนกที่ขี้เหร่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา (นกน้อยตัวหนึ่งบินไปมา คงกำลังทาสี เก็บปูน หรือตกแต่งหลังคา)

ขณะรวงรังเงียบ ไร้เสียง ไร้ตัว ไร้สิ่งมีชีวิต ผมเอากางเกงขายาวไปแขวนที่ประตู ทำเป็นฉาก ป้องกันการมองเห็นระหว่างนกกับผม คือไม่อยากให้มันกังวลจนทิ้งรังไป

หลายวันก่อน ผมหอบเสื่อหมอนมานอนใกล้ๆ ประตู หวังแอบดูพฤติกรรม หวังได้พบการป้อนเหยื่อ หวังได้พบการขยับปีกที่ปากรัง แต่ไม่ ไม่พบอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า รังขี้เหร่แกว่งไกวไปตามแรงลม สุดท้ายทนไม่ไหวต้องย้ายกลับห้องนอน ขณะเดียวกันนั้น รังเงียบกลับมีเสียง รังว่างเปล่ากลับมีนกน้อยยื่นจะงอยปากออกมา มันส่งสายตา มันมองหาอะไรบางอย่าง เท่านี้ผมก็ดีใจได้เห็นหน้าสมาชิกใหม่ สมาชิกผู้ไม่เคยร้องขออะไรนอกจากอาศัยพื้นที่น้อยๆ แค่ตารางฝ่ามือเพื่อสืบพันธุ์


เช้าวันหนึ่ง ออกไปส่องที่ระเบียง ตัวเมียไม่อยู่ในรัง พยายามมองหา ปรากฏว่ามันไปเกาะเหล็กดัดตึกฝั่งตรงข้าม ยืนตากแดดไซร้ขน มีสามียืนอยู่ไม่ห่าง (สามีหล่อมาก คอสีน้ำเงินเข้มตัดกับเหลือง งามจริง)


บันทึกภาพที่ลาดพร้าว 71
กล้อง Nikon D300s
Aperture  F.5.6
Shutter Speed 1/250s
Iso 800